พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ (11 มีนาคม พ.ศ. 2490 — ) อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ เป็นชาวอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของ นายเกษม วัฒนะ อดีตข้าราชการครู และนายอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับ นางสวง วัฒนะ สมรสกับ พ.ญ.วันทนีย ศรีอุทารวงค์ มีบุตร-ธิดา 2 คน
โกวิท เข้าศึกษาชั้นประถมที่ โรงเรียนเทพประสิทธิ์วิทยา โรงเรียนผักไห่สุทธาประมุข โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจบจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 6 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 22
โกวิท วัฒนะ รับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน เป็นเวลากว่า 27 ปี เคยปฏิบัติราชการรับใช้สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ในระหว่าง พ.ศ. 2513 - 2518 สถานการณ์รบสู้กับคอมมิวนิสต์อยู่ในขั้นรุนแรง พล.ต.อ.โกวิท ในฐานะผบ.กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนในขณะนั้น ได้ออกปราบปรามในพื้นที่ภาคเหนือตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า คุ้มครองการก่อสร้างเส้นทางในพื้นที่อันตราย โดยเฉพาะเขต อ.อุ้มผาง จ.ตาก รวมระยะทาง 120 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ระหว่างที่เป็น ผบก.ตชด.ภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบภาคเหนือทั้งหมด ยังมีผลงานการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ปะทะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายร่วม 50 ครั้ง จนสถานการณ์คลี่คลายลง ต่อมาได้รับความดีความชอบขึ้นเป็นรอง ผกก.1 บก.กฝ. (ค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี) แล้วขยับเป็น ผกก.1 บก.กฝ. ในวัยเพียง 32 ปี เป็นผู้กำกับที่หนุ่มที่สุดขณะนั้น ต่อมาเลื่อนเป็นรอง ผบก.กฝ. แล้วโยกมาเป็นรอง ผบก.ตชด. ภาค 3 ก่อนสลับเป็นรอง ผบก.ตชด. ภาค 1
ติดยศ พล.ต.ต. ตำแหน่ง ผบก.ตชด. ภาค 3 เมื่อปี 2530 คุมพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด ยุคที่ยาเสพติดโดยเฉพาะเฮโรอีนแพร่ระบาดไปทั่ว กุมบังเหียนเข้าถล่มโรงงานผลิตเฮโรอีนใน จ.เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ราบไป 21 โรงงาน ไม่นับรวมรายเล็กรายย่อย
พลตำรวจเอกโกวิท เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เมื่อ พ.ศ. 2537 รับคำชมเชยจาก พล.ต.อ.เภา สารสิน อธิบดีกรมตำรวจสมัยนั้น และรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นผู้นำหน่วยที่มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว กระทั่งขึ้นนั่งเก้าอี้ผบช.ตชด. ในปี พ.ศ. 2537 ต่อมาขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. รับผิดชอบงานบริหาร ก่อนจะดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ. 2543 ได้คุมพื้นที่ชายแดนภาคใต้ กระทั่งปี พ.ศ. 2547 ได้เลื่อนขึ้นเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.โกวิท ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โดยที่ในความเป็นจริงแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งใจจะแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ให้ดำรงตำแหน่งนี้ แต่จำเป็นต้องแต่งตั้ง พล.ต.อ.โกวิท แทน เนื่องจากมีอาวุโสสูงสุด และได้รับการยอมรับในหมู่ผู้ใต้บังคับบัญชามากกว่า ซึ่งในเวลาต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้แต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติแทน
พล.ต.อ.โกวิท ดำรงตำแหน่งผู้กำกับการปฏิบัติงานของหัวหน้าผู้รับผิดชอบ พนักงานเจ้าหน้าที่และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง ในวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 ถึง 9 ธันวาคม พ.ศ. 2551
ในเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 พล.ต.อ.โกวิท ดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ และดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ในเวลาต่อมา
พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ ได้รับคำสั่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 หลังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีเหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 โดยมี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทน (ซึ่งต่อมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกย้ายให้ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี)
พลตำรวจเอกโกวิท ได้รับคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2550 ภายหลังศาลปกครองได้วินิจฉัยว่า คำสั่งดังกล่าวของนายกรัฐมนตรี (พลเอกสุรยุทธ์ จุลลานนท์) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในที่สุด ส่งผลให้พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ สามารถดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจนครบวาระเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2550
ในปี พ.ศ. 2551 พล.ต.อ.โกวิท ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ด้วยมติเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคพลังประชาชน และตัดสิทธิทางการเมืองหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค 5 ปี (รวม 37 คน) ตามประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ในฐานะรักษาการหัวหน้าพรรคพลังประชาชนต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยปริยาย และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งรวมถึง พล.ต.อ. โกวิท ด้วย
ต่อมาในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และถูกปรับออกจากตำแหน่งในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555
หลวงรัถยาภิบาลบัญชา (เอส.เย.เอมส์) • พระยาอรรคราชวราทร (ภัสดา บุรณศิริ) • เอ.เย.ยาดิน • อีริกเซ็นต์ เย ลอสัน • พระยาวาสุเทพ (กุสตาฟ เชา)
ประชา พรหมนอก • พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ • สันต์ ศรุตานนท์ • โกวิท วัฒนะ • เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส • พัชรวาท วงษ์สุวรรณ • วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี • เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ • อดุลย์ แสงสิงแก้ว • สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง • จักรทิพย์ ชัยจินดา